สำหรับนักประวัติศาสตร์และผู้ที่สนใจในเรื่องราวของแอฟริกา การประท้วงที่เกิดขึ้นในเอธิโอเปียในปี 2016 เป็นเหตุการณ์ที่น่าจดจำ เป็นการต่อสู้ที่รุนแรงและยาวนานเพื่อความยุติธรรม ความเท่าเทียม และสิทธิพลเมืองโดยกลุ่มเยาวชน
เหตุการณ์นี้จุดประกายจากความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมากต่อรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ขบวนการหน้าที่ (EPRDF) ซึ่งครองอำนาจมาหลายทศวรรษ ชาวเอธิโอเปียจำนวนมากเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้รับการแทนตัวอย่างเหมาะสมและถูกจำกัดสิทธิพื้นฐาน
แม้ว่า EPRDF จะนำประเทศไปสู่ความเจริญทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การควบคุมสื่อ และการขาดประชาธิปไตย
จุดเริ่มต้นของการประท้วงอยู่ที่เมืองโอมโรมิยะซึ่งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของชาวออร์โม ผู้คนออกมาเดินขบวนต่อต้านแผนของรัฐบาลในการสร้างโครงการขยายเขตเมืองที่ผู้คนมองว่าเป็นการยึดครองที่ดินและทำลายวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม
การประท้วงอย่างรวดเร็วก็แพร่กระจายไปยังทั่วทั้งประเทศ โดยกลุ่มเยาวชนจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ และชาวนาเข้าร่วม
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนได้เห็นถึงความมืดของการเมืองเอธิโอเปียที่ปกครองโดยฝ่ายเดียวมาเป็นเวลานาน การประท้วงปี 2016 นำโดย “Xerxes Adisu,” นักเคลื่อนไหวหนุ่มไฟแรงผู้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมอย่างลึกซึ้ง
Adisu มองเห็นความจำเป็นในการรวมตัวของประชาชนเพื่อต่อต้านความอยุติธรรมที่ฝังรากลึกอยู่ในระบบการเมือง
กลไกแห่งการเปลี่ยนแปลง: การชุมนุม, การสื่อสารและการเคลื่อนไหวออนไลน์
ในช่วงที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังแพร่หลายไปทั่วโลก การประท้วงปี 2016 ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
Xerxes Adisu และผู้ชุมนุมร่วมกันได้นำสื่อสังคมออนไลน์มาเป็นเครื่องมือในการระดมทุน, รวบรวมข้อมูลข่าวสารและประสานงานการเคลื่อนไหว
Facebook, Twitter และ WhatsApp กลายเป็นช่องทางหลักในการส่งต่อข้อความถึงประชาชน และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกัน
การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ชุมนุมสามารถเอาชนะการควบคุมสื่อของรัฐบาลและเผยแพร่เรื่องราวของพวกเขาไปยังสาธารณชนทั่วโลก
ผลลัพธ์ที่ไกลเกินความคาดหมาย: การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคม
การประท้วงปี 2016 ได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประเทศเอธิโอเปีย
รัฐบาล EPRDF ถูกบีบให้ยอมรับความต้องการของประชาชนและประกาศดำเนินการปฏิรูปที่สำคัญ
ในปี 2018, Abiy Ahmed ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนำพาประเทศไปสู่การเปิดกว้างทางการเมือง
Abiy Ahmed ยกเลิกสถานะฉุกเฉิน, ปล่อยนักโทษการเมืองและเริ่มต้นกระบวนการเจรจากับกลุ่มกบฏ
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เอธิโอเปียกลายเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น
บทเรียนที่ได้รับ: เสียงของประชาชนมีความทรงพลัง
การประท้วงปี 2016 เป็นข้อพิสูจน์ว่าเสียงของประชาชนมีความทรงพลัง และสามารถเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศได้
Xerxes Adisu และผู้ชุมนุมร่วมกันได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรวมตัว, การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเคลื่อนไหวและผู้ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมทั่วโลก.